Aqua.c1ub.net
*
  Thu 24/Jul/2025
หน้า: 1 2 3   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: อ่่านนิดครับ สถานการณ์ oversupply ตลาดหมอแคระ  (อ่าน 19207 ครั้ง)
อ๊อด Melanochromis ออฟไลน์
Moderator
« เมื่อ: 05/06/11, [22:55:06] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


ผมได้สังเกตเห็นว่าที่ห้องซื้อขายปลา มีโพสต์ขายปลาหมอแคระกันคึกคักมาก
ส่วนนึงก็ดีใจครับ ที่เห็นคนเพาะปลากันได้เยอะ วงการก็เติบโต
 [เจ๋ง] [เจ๋ง]

แต่อีกส่วนนึง ก็รู้สึกกังวลว่าจะเข้าสถานการณ์ oversupply คือมีปลาล้นตลาด คนจะขายมีเยอะกว่าคนจะซื้อ
เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นในวงการปลาหมอแคระแล้วนะครับ ซึ่งพอเกิดทีก็ทำตลาดพังได้เลย เพราะ

- คนซื้อ(บางคน) จะเริ่มมีพฤติกรรมเอาแต่ "ของถูก" มากกว่าจะดูคุณภาพเป็นหลัก
- คนขายและคนเพาะ(บางคน) ก็เริ่มตัดราคากันเองแบบไม่ดูอย่างอื่น อาจจะไม่อยากเสียเวลามาลงทุนกับการคัดสายปลา ทำให้คุณภาพปลาลดลงด้วย
- คนนำเข้าปลา(บางคน) ก็จะไม่กล้านำเข้าปลาใหม่ๆด้วย หากมีปลาขายอยู่แล้วในราคาที่ถูกมาก

เรื่องการขายปลา ใครอยากจะขาย ก็สามารถทำได้ครับ คงไม่มีใครไปห้ามอยู่แล้ว
แต่่อยากจะขอเสนอแนะนิดนึงว่า ให้มองภาพรวมด้วยครับ อยากให้มองอนาคตของวงการในระยะยาว
เพราะยังไงวงการปลาหมอแคระมันก็ไม่ได้ใหญ่เท่าไหร่ ถ้ามีอะไรพลาดนิดนึง อาจจะล่มเอาได้ง่ายๆ

ตอนนี้เรามี supply ค่อนข้างมากแล้ว (ส่วนนึงก็อาจเป็นเพราะความสำเร็จของ DCB Project ด้วย)
ทางที่ดีคือ เราควรจะสร้าง demand หรือความต้องการของตลาด ให้ตามทันด้วยครับ
ลองคิดหาวิธีีขยายกลุ่มคนเลี้ยง เช่น ไปลงเว็บอื่น เน้นแนะนำมือใหม่ จับกลุ่มคนมีตู้ไม้น้ำ ฯลฯ
อันนี้จะช่วยวงการได้มากกว่าการเอาแต่ขายแบบเน้นราคาอย่างเดียวนะครับ

เลยขอเสนอไว้ให้พิจารณาครับ

ปล. กระทู้นี้ ขอแบ่งเครดิตให้คุณแพน Apistoensis ด้วย เพราะได้ถกกับผมเรื่องสถานการณ์กันมาครับ

 [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง]

หมูจ๋า ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #1 เมื่อ: 05/06/11, [23:03:46] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เป็นเรื่องน่ากลัว สำหรับทุกวงการเลย เรื่องตัดราคา 
ก็เอาเป็นว่า สนับสนุน แนวทางการแก้ไข ที่เสนอมาครับ  [เจ๋ง]

กะอีกอันนึง เป็นแนวคิดของผม ที่เคย คุยกะพี่ท่านนึงในเว็บไปแล้ว
ว่า บางหนก็ต้อง ดึงราคา"มาตรฐาน" หรือ"ราคากลาง" มายึดไำว้ อย่าตัดราคากันเอง
bz ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #2 เมื่อ: 05/06/11, [23:17:01] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

บางทีก็ต้องอิงจากราคาพ่อแม่ปลาด้วย(ยกเว้นการสลับสายของพ่อกับแม่ปลา)
ซื้อพ่อแม่ปลา(กรณีซื้อมาเป็นคู่สับสายหรือไม่ก็ไม่รู้)มา2000 เพาะได้ลูกปลาขาย2500ก็คงไม่ใช่
ต้องดูประเภทของปลา ไม่ใช่ปลาพื้นๆมาขายราคาเว่อร์ก็ใช่ที่ (หากสับสายมาแล้วนั่นก็อีกเรื่อง) ราคาก็อาจจะอัพตาม
ถ้าอย่างนั้นไม่ทำราคากลางออกมาเลยล่ะครับ ทำมันทุกสายพันธุ์น่ะแหละ แบบสลับสายและไม่สลับสาย
ปล.อันนี้ยกตัวอย่างให้ฟังครับ แล้วแต่พิจารณา [on_035]
Longhairguy ออฟไลน์
Shrimp Admin
« ตอบ #3 เมื่อ: 05/06/11, [23:24:03] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ดีแล้วครับที่พูดคุยกันถึงเรื่องนี้ ไม่อยากจะให้เป็นอย่างตลาดกุ้งเครที่คนขายแทนที่จะร่วมมือกันพยุงราคาและพัฒนาสินค้า กลับกลายเป็นว่าตัดราคากันซะจนไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่ออะไร

วันก่อนผมก็มีคุยเรื่องนี้คร่าวๆกับทางเกรียนเบญ(Indigoben)ไว้บ้างแล้ว สมควรที่จะจับมือกันควบคุมเพื่อระยะยาวของวงการ
อ๊อด Melanochromis ออฟไลน์
Moderator
« ตอบ #4 เมื่อ: 05/06/11, [23:27:44] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


ถ้าอย่างนั้นไม่ทำราคากลางออกมาเลยล่ะครับ ทำมันทุกสายพันธุ์น่ะแหละ แบบสลับสายและไม่สลับสาย
ปล.อันนี้ยกตัวอย่างให้ฟังครับ แล้วแต่พิจารณา [on_035]


เรื่องราคากลางเนี่ยมีคนเสนอมากันหลายครั้งแล้วครับ
แต่ว่าพอจะทำกันจริงก็ยากนะครับ ด้วย 2 ประเด็น

1. คนที่จัดราคากลาง ต้องแม่น เก็บข้อมูลมาดี เข้าถึงข้อมูลทั้งในและต่างประเทศ รู้จักชนิดปลาดีมาก(ปลาแต่ละชนิดยังแบ่งวาไรตี้ได้อีกเยอะแยะครับ) และต้องรู้จักตลาดดีมาก

2.  คนที่จัดราคากลาง ก็ต้องมีความเป็นกลางจริงๆ
แต่ว่าคนในนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนเพาะปลาขายปลากันทั้งนั้น จะเกิด conflict of interest ได้
ยกตัวอย่างว่า ถ้าให้ผมทำ ก็อาจจะมีคำครหาว่าตั้งราคากลางคาคาทอยให้เป็นประโยชน์กับตัวเองหรือเปล่า
อะไรทำนองนี้

เลยว่า ไอเดียดี แต่ยากตอนจะทำจริงครับ
เว้นแต่จะหาคนที่คุณสมบัติถึงทั้ง 2 ประการจริงๆ
 [on_065] [on_065]
LukYom ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #5 เมื่อ: 05/06/11, [23:28:45] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เห็นด้วยครับ น่าจะมาคุยราคากลางกันเลย  [on_055]
นำเข้าที่ประชุมด่วนครับคุณอ๊อดด เห็นด้วยอย่างแรง  [เจ๋ง]
อ๊อด Melanochromis ออฟไลน์
Moderator
« ตอบ #6 เมื่อ: 05/06/11, [23:31:41] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เห็นด้วยครับ น่าจะมาคุยราคากลางกันเลย  [on_055]
นำเข้าที่ประชุมด่วนครับคุณอ๊อดด เห็นด้วยอย่างแรง  [เจ๋ง]

หรือไม่งั้น เรื่องการทำราคากลางก็อาจใช้เป็น "คณะกรรมการกำหนดราคากลาง" แทนที่จะเป็นตัวบุคคล
อันนี้อาจจะดูน่าเชื่อถือว่า
bz ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #7 เมื่อ: 05/06/11, [23:33:52] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เรื่องราคากลางเนี่ยมีคนเสนอมากันหลายครั้งแล้วครับ
แต่ว่าพอจะทำกันจริงก็ยากนะครับ ด้วย 2 ประเด็น

1. คนที่จัดราคากลาง ต้องแม่น เก็บข้อมูลมาดี เข้าถึงข้อมูลทั้งในและต่างประเทศ รู้จักชนิดปลาดีมาก(ปลาแต่ละชนิดยังแบ่งวาไรตี้ได้อีกเยอะแยะครับ) และต้องรู้จักตลาดดีมาก

2.  คนที่จัดราคากลาง ก็ต้องมีความเป็นกลางจริงๆ
แต่ว่าคนในนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนเพาะปลาขายปลากันทั้งนั้น จะเกิด conflict of interest ได้
ยกตัวอย่างว่า ถ้าให้ผมทำ ก็อาจจะมีคำครหาว่าตั้งราคากลางคาคาทอยให้เป็นประโยชน์กับตัวเองหรือเปล่า
อะไรทำนองนี้

เลยว่า ไอเดียดี แต่ยากตอนจะทำจริงครับ
เว้นแต่จะหาคนที่คุณสมบัติถึงทั้ง 2 ประการจริงๆ
 [on_065] [on_065]

อย่างว่าน่ะแหละครับคุณอ๊อด ปลาแต่ละล็อต ราคายังไม่เท่ากันเลย(แล้วแต่แหล่งที่มาของปลา)
แต่น่าจะมีมาตรการไม่ให้ราคาต่ำกว่าเพดานที่กำหนด....

ปล.+ให้1ครับคุณอ๊อด กับโพสต์กระทู้ที่ปัญหากำลังเกิดขึ้นจริง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05/06/11, [23:39:43] โดย bz »
Birdtero ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #8 เมื่อ: 05/06/11, [23:41:43] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เป็นเรื่องน่ากลัว สำหรับทุกวงการเลย เรื่องตัดราคา 
ก็เอาเป็นว่า สนับสนุน แนวทางการแก้ไข ที่เสนอมาครับ  [เจ๋ง]

กะอีกอันนึง เป็นแนวคิดของผม ที่เคย คุยกะพี่ท่านนึงในเว็บไปแล้ว
ว่า บางหนก็ต้อง ดึงราคา"มาตรฐาน" หรือ"ราคากลาง" มายึดไำว้ อย่าตัดราคากันเอง

พูดถูกจัยพี่หมู
CJ Silver ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #9 เมื่อ: 05/06/11, [23:52:56] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เรื่องนี้สำคัญมากจิงๆ คนใหม่ๆที่เข้ามาเลี้ยงมักอยากได้ปลาสวยแต่ราคาถูก เกิน400-500ก็ไม่ซื้อแล้ว
คนมักอยากอยากซื้อปลาตามร้านมากกว่าแม้มีว่าราคาแพงกว่า การแก้ปัญหาเรื่องนี้ยากจิงๆคับ ทุกคนอบากได้ของถูกและดี แต่ลองมองกลับมามองในมุมของคนเพาะบ้าง ถ้าเพาะแล้วราคาปลาถูกมากใครอยากทำต่อบ้าง 
indigoben ออฟไลน์
Moderator
« ตอบ #10 เมื่อ: 06/06/11, [00:19:44] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

   ผมได้บอกกับมือใหม่ตลอด แต่ไม่เคยตั้งกระทู้ เวลาเจอกันก็จะคุยกันด้วยเรื่องทำนองนี้ อยากให้เลี้ยงด้วยความรัก และความอยากเลี้ยง อยากสะสม  อย่าเน้นเพาะขาย เพราปลาตัวนี้ ไม่ได้เป็นปลาตลาดที่ขายง่ายขายดี คิดจะเข้ามาตรงนี้เพื่อหากำไร เป็นกอบเป็นกำ มันยาก เอาไปทำอย่างอื่นดีกว่า เพราะสุดท้ายแล้วอาจได้ไม่คุ้มเสีย แม้เราจะมีข้อมูลในการเลี้ยงการเพาะพันธุ์ แต่ก็ไม่ได้สนับสนุนในการทำเพื่อค้าขาย สิ่งที่ห้องนี้มีให้ก็เพื่อทำให้ปลาเลี้ยงง่ายขึ้น มือใหม่ก็เลี้ยงได้  พอข้อมูลเยอะัขึ้น บางคนเข้ามาเห็นว่าเออ...ไม่ยากแล้วนี่ ก็มีคนกล้าเล่นมากขึ้น เลี้ยงมากขึ้น แต่กลัวจะกลายเป็นว่า พอง่ายแล้ว เพาะได้กันแล้ว เพาะขายดีกว่าเว้ยยย........  มันจะจบเร็ว และสุดท้าย จะเหลือแค่พวกรักจริงเท่านั้นที่ยังอยู่

    อย่างที่คุณอ๊อดบอกไว้  ผมรู้สึกดีนะ ที่กระทู้ในห้องขายปลา มีหมอแคระอยู่ไม่ขาดเลย และมีอยู่มากซะด้วย จากเมื่อก่อนที่ไม่มีเลย นานๆที บางครั้งต้องตั้งประมูลก็มี จนเดี๋ยวนี้  30% ของกระทู้ห้องขายปลา เป็นปลาหมอแคระ มันน่าชื่นใจ ผมเองอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่เริ่ม เห็นคนที่เข้ามาแล้วจากไปมากมาย แต่ต้องบอกว่าช่วงหลังผมเองก็ได้หาวิธีใหม่ๆที่จะโปรโมทปลา ไม่ว่าจะแจกในรายกการ จัดประกวดตู้ จัดโหวตรูป เขียนคอลัมน์ลงหนังสือ ก็เพราะอยากจะให้มีคนได้รู้จักหมอแคระมากขึ้น อยากให้ได้รับรู้ถึงประสบการณ์แบบเดียวกับที่เราได้รับจากปลาตัวนี้ และรักมัน อย่างที่ผมรัก ตอนนี้รายการวิทยุ จากที่เป็นให้คุยเรื่องไม้น้ำ ก็กลายเป็นหมอแคระไปซะทั้งรายการแล้ว (เนื่องจากแฟนรายการเรียกร้อง) แถมเป็นรายการทีมีคนฟังอันดับ 1 ด้วย (70 กว่าคน)  ผมได้ทำหน้าที่ และทำทุกอย่างก็เพื่อวงการหมอแคระ  ไม่อยากให้จบไม่สวย  

    ดังนั้น อยากให้เลี้ยงเชิงพัฒนา เลี้ยงเชิง HOBBY แล้วจะมีความสุขครับ ไม่อยากให้เห็นเป็นเงินเป็นทองไปซะ ผมเองเริ่มจากตรงนั้น แล้วก็เคยทำฟาร์ม ก็ไม่ได้กำไรอะไร ขาดทุนด้วยซ้ำ แต่ก็มีความสุขที่ได้ทำ (ขายปลายังไม่ถึง 2 หมื่นเลย โดนยุงที่ฟาร์มกัดจนเป็นไข้เลือดออก รักษาไป 3 หมื่นกว่า) ผมเองบอกเลยว่า ให้ปลาตายคาตู้ ผมก็ไม่ยอมลดราคาปลานะ ปลาหมอแคระมีศักดิ์ศรี และคนขายเองก็ต้องมีศักดิ์ศรีเหมือนปลาด้วยนะครับ และให้เกียรติกับผู้เพาะเลี้ยงคนอื่นๆด้วยนะครับ วงการจะอยู่ได้ เพราะพวกเราร่วมมือกันพัฒนาครับ ถ้าวันนึงมีที่ให้ส่งออกได้ มันจะทำให้พวกเราเพาะได้เต็มที่มากขึ้น ซึ่งผมเองก็พยายามหาช่องทางอยู่ตลอด อยากให้ชาวโลกได้รู้ว่า ประเทศไทยก็มีศักยภาพไม่แพ้ญี่ปุ่น ฮ่องกง อินโด สิงคโปร หรือ เยอรมัน เลยนะครับ  คนไทย ถ้าตั้งใจทำอะไร ก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกครับ

    อีกอย่าง การเพาะปลาหมอแคระ มันก็อาจจะช่วยลดโอกาสสูญพันธุ์ของปลาด้วยครับ ใครจะไปรู้ จับมาขายมากๆ หรือเกิดเหตุการณ์ธรรมชาติต่างๆ ปลาจับไม่ได้ ของไม่มี สูญพันธุ์ไป อย่างน้อยๆ เราก็จะยังมีสายพันธุ์ที่เก็บไว้ตรงนี้ นี่อาจเป็นเรื่องที่ดูไกลตัว แต่ใครจะไปรู้อนาคตได้ละครับ [ไอ้แว่น]

  
indigoben ออฟไลน์
Moderator
« ตอบ #11 เมื่อ: 06/06/11, [00:22:55] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

 ลืมบอกไปอีกอย่าง......เร็วๆนี้ อพิสโตคอร์เนอร์ โปรเจคที่ผมตั้งใจไว้ ดูจะใกล้ความเป็นจริงๆอีกนิดละครับ emb01
bz ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #12 เมื่อ: 06/06/11, [00:32:43] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ซอบมากครับ ปลาหมอแคระมีศักดิ์ศรี คนเพาะเลี้ยงก็มีศักดิ์ศรี  [เจ๋ง]
TheBaSIC ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #13 เมื่อ: 06/06/11, [03:07:29] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เห็นด้วยครับๆๆๆ [เจ๋ง]
อ๊อด Melanochromis ออฟไลน์
Moderator
« ตอบ #14 เมื่อ: 06/06/11, [07:44:07] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เรื่องนี้สำคัญมากจิงๆ คนใหม่ๆที่เข้ามาเลี้ยงมักอยากได้ปลาสวยแต่ราคาถูก เกิน400-500ก็ไม่ซื้อแล้ว
คนมักอยากอยากซื้อปลาตามร้านมากกว่าแม้มีว่าราคาแพงกว่า การแก้ปัญหาเรื่องนี้ยากจิงๆคับ ทุกคนอบากได้ของถูกและดี แต่ลองมองกลับมามองในมุมของคนเพาะบ้าง ถ้าเพาะแล้วราคาปลาถูกมากใครอยากทำต่อบ้าง 

จริงครับ ผมก็เจอว่ามือใหม่มักจะอยากได้ "ปลาราคาไม่แรง เอาไปลองเลี้ยง"
แต่ผมว่า มือใหม่ควรจะมองหา "ปลาคุณภาพดี เลี้ยงง่ายน่าประทับใจ" มากกว่า


อยากให้เลี้ยงด้วยความรัก และความอยากเลี้ยง อยากสะสม  อย่าเน้นเพาะขาย เพราปลาตัวนี้ ไม่ได้เป็นปลาตลาดที่ขายง่ายขายดี คิดจะเข้ามาตรงนี้เพื่อหากำไร เป็นกอบเป็นกำ มันยาก เอาไปทำอย่างอื่นดีกว่า

นี่ก็จริงครับ ตลาดมันเล็กมาก
ถ้าจะเน้นเพาะเชิงปริมาณ แป๊บเดียวก็ล้นตลาดแล้ว และราคากับคุณภาพจะลงอย่่างรวดเร็ว

แต่ต้องบอกว่าช่วงหลังผมเองก็ได้หาวิธีใหม่ๆที่จะโปรโมทปลา ไม่ว่าจะแจกในรายกการ จัดประกวดตู้ จัดโหวตรูป เขียนคอลัมน์ลงหนังสือ ก็เพราะอยากจะให้มีคนได้รู้จักหมอแคระมากขึ้น อยากให้ได้รับรู้ถึงประสบการณ์แบบเดียวกับที่เราได้รับจากปลาตัวนี้ และรักมัน อย่างที่ผมรัก ตอนนี้รายการวิทยุ จากที่เป็นให้คุยเรื่องไม้น้ำ ก็กลายเป็นหมอแคระไปซะทั้งรายการแล้ว (เนื่องจากแฟนรายการเรียกร้อง) แถมเป็นรายการทีมีคนฟังอันดับ 1 ด้วย (70 กว่าคน)  ผมได้ทำหน้าที่ และทำทุกอย่างก็เพื่อวงการหมอแคระ  ไม่อยากให้จบไม่สวย
 

กิจกรรมพวกนี้ ผมว่าดีมากๆครับ
เป็นการสร้าง demand ของตลาด
 [เจ๋ง]
Kai ออฟไลน์
หมอแคระ mania
« ตอบ #15 เมื่อ: 06/06/11, [08:12:02] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

Demand Supply มันเป็นวัฎจักรที่หนีไม่พ้น

คงห้ามไม่ได้สำหรับการตัดราคาเพราะdemandของตลาดหมอแคระนั้นเล็ก

มือใหม่ที่คิดเข้ามาเพาะปลาขายควรทำใจเรื่องขายปลาไม่ได้ไว้ด้วยนะครับ

เพาะมา100ตัวมีตัวผู้นิดเดียว แถมขายไม่ได้อีก มีให้เห็นแน่นอนในไม่ช้า

แต่ถ้ารักในการเลี้ยงปลาหมอแคระก็ไม่ต้องไปกลัวขายไม่ออกก็เลี้ยงไว้ดูเล่น
abc ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #16 เมื่อ: 06/06/11, [08:16:36] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

รับทราบครับ  [เจ๋ง]
bobo ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #17 เมื่อ: 06/06/11, [08:36:31] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ลืมบอกไปอีกอย่าง......เร็วๆนี้ อพิสโตคอร์เนอร์ โปรเจคที่ผมตั้งใจไว้ ดูจะใกล้ความเป็นจริงๆอีกนิดละครับ emb01

 [เจ๋ง] ไปคุยมาแล้วเป้นไงบ้างครับ
OMG-Apistogramma ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #18 เมื่อ: 06/06/11, [09:48:36] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

 [on_007]
Apistoensis ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #19 เมื่อ: 06/06/11, [09:56:05] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เรื่องการตั้งราคากลางผมว่าไม่ยาก  ลอง setราคาแต่ละชนิดตามราคาตลาดมาไว้ก่อนก็ได้ครับ จากราคาที่เคยขายกันมา  และให้สมาชิกโหวต หรือปรับแก้กันดู  ว่าสูงหรือต่ำไปอย่างไร

ส่วนมากที่ราคาตกมักมาจากการตัดราคากันในเวปนี่แหละ  ราคาตามร้านต่างๆ มักสูงกว่าราคาในเวปอยู่แล้ว เพราะต้องบวกค่าเช่าร้านเข้าไปด้วย

ที่สำคัญ อย่างที่พี่ไก่บอกไว้ ว่าปลาในแต่ละครอก  ไม่ได้ขายกันได้ทุกตัว ปลาไม่สวย หรือ พิการทั้งครอก หรือ พิการเฉพาะบางตัว คนเพาะต้องรับผิดชอบโดยการเลี้ยงเองครับ

การปล่อยปลาพิการออกมาในตลาด โดยตัดราคาออกมาถูกๆ จะทำลายตลาดระยะยาว  ทั้งในแง่ของการ ทำลายสายพันธุืที่ดี และ ในแง่ของราคากลางโดยรวม เหมือนตลาดครอสบรีด เคยเจอมาแล้ว

ถ้ารวมกลุ่มกันได้ ผมว่าดีต่อตลาดปลาหมอแคระนะ  เพราะศูนย์รวมใหญ่ที่สุด ก็น่า่จะอยู่ในเวปนี้นี่แหละ

เคยเห็นคาคาทอย ตัวละ 20 บาทมาแล้ว  ในมุมคนขายคงไม่มีใครอยากเห็น บริทบินเด้น 35 บาท ไบเทีย 40 บาท  หรือแม้แต่ แมคมาสเตอร์ 25 บาท  ซึ่งถ้าไปถึงจุดนั้น ตลาดคงจบไปแ้ล้ว

ซึ่งที่แ่น่ๆ คงไม่มีใครอยากสั่งปลานอกไป สลับสาย  หรือ บินไปคัดปลาเองอีกแล้ว เพราะแรงจูงใจมันไม่มี

เสน่ห์ ปลาหมอแคระคงลดลงไปมากทีเดียว


ผมเองก็รอ Apisto corner ของพี่เบนอยู่เหมือนกัน  อยากทราบความคืบหน้ามากเลยพี่


อ้อ  ถ้ากระทู้นี้ถึงที่สุด แล้ว แนะนำให้ปักหมุดครับ

อย่าพึ่งปักตอนนี้  เพราะกระทู้ที่ปักหมุดส่วนใหญ่ คนจะไม่ค่อยสังเกตุครับ



เธอก็รู้ ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #20 เมื่อ: 06/06/11, [10:01:37] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เห็นด้วยอย่างแรงเลยนะครับ

การทำปลาขาย ผู้ค้าในเว็บไซต์เรามากขึ้น

บางครั้งผมอดตกใจไม่ได้กับราคาของปลาที่ขาย

อย่างที่พี่อ๊อดว่าบางคนดูแค่ราคา ไม่ได้คิดถึงที่มาของปลา

หรือคิดว่าขายถูกตัดราคาทำให้ราคากลางถอยตามลงไป

ซึ่งตรงนี้ ผมว่าควรจะนึกถึงอนาคตในระยะยาวด้วย

ขอให้ผู้ค้าผู้จำหน่ายคำนึงถึงข้อนี้ด้วยนะครับ

ขอบคุณครับพี่๊อ๊อดที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาครับ

ผมรู้สึกมานานพอสมควรแต่ไม่รู้จะไปพูดกับใคร

[ไอ้แว่น]
praesepe ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #21 เมื่อ: 06/06/11, [11:15:48] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

จะว่าไปปลาที่บูมๆในบ้านเราแทบทุกสายพันธุ์ก็เจอมาแบบนี้หมดแล้ว อยู่ที่คนเลี้ยงจะช่วยๆกัน ซึ่งตรงนี้ผมว่าก็ไม่น่าจะยากนะ เพราะวงการมันเล็กๆเอง น่าจะรู้จักกันหมดเนอะ
runner ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #22 เมื่อ: 06/06/11, [12:04:31] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เห็นด้วยเรื่องกำหนดเพดานราคาต่ำสุดครับ [on_018]
ร้านเเบกเงินเเบกทอง ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #23 เมื่อ: 06/06/11, [12:14:55] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

สู้ๆ ครับ ช่วยๆ กัน กำหนดเลยครับ ตั้งต่ำสุดกี่บาท
paman ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #24 เมื่อ: 06/06/11, [12:30:22] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

น่าจะทำราคากลางแบบปลาทะเลนะครับ แบบนี้อ่ะครับ
http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=124454.0 ผมว่ามันง่ายต่อการกำหนดราคา
อ๊อด Melanochromis ออฟไลน์
Moderator
« ตอบ #25 เมื่อ: 06/06/11, [16:08:26] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

น่าจะทำราคากลางแบบปลาทะเลนะครับ แบบนี้อ่ะครับ
http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=124454.0 ผมว่ามันง่ายต่อการกำหนดราคา


กระทู้นี้ผมก็ชอบเข้าไปดู รูปแบบนี้ก็น่าสนมากครับ

เรื่องการตั้งราคากลางผมว่าไม่ยาก  ลอง setราคาแต่ละชนิดตามราคาตลาดมาไว้ก่อนก็ได้ครับ จากราคาที่เคยขายกันมา  และให้สมาชิกโหวต หรือปรับแก้กันดู  ว่าสูงหรือต่ำไปอย่างไร

อืมม.. คิดว่าพอเห็นภาพเหมือนกันครับ



อย่างที่พี่อ๊อดว่าบางคนดูแค่ราคา ไม่ได้คิดถึงที่มาของปลา


มันก็ธรรมชาติคนซื้อ(บางคน)น่ะครับ
ขอเล่าเรื่องนิดนึง ตอนแรกๆที่ผมเข้าเว็บนี้ ผมเคยทำโครงการเพาะปลาสอดดำจิ๋ว
นั่งคัดสายอยู่ 2-3 รุ่น ใช้เวลาซักปีนึงได้ เลือกปลาที่มันแคระที่สุดของครอกมาผสมกันเอง
จนได้ปลาตัวผู้ที่โตเต็มที่ขนาดแค่เซนต์กว่าๆ น่ารักมากๆ
พอเอามาตั้งกระทู้ขาย 3 ตัว 50 บาท บอกไปเสร็จสรรพว่าคัดสายมายังไง
ก็มีคนมาโพสต์กระแนะกระแหนว่า ไปซื้อที่สวนก็ได้ ตักตู้รวม ตัวละ 1 บาทเอง

โห มันน่าจี๊ดไหม
ที่ขายราคา 50 บาท แค่เสียเวลา่แพ็คถุงแล้วออกไปเจอคนซื้อข้างนอกก็ไม่คุ้มแล้ว ยังไม่พอใจอีก
แล้วกรณีนี้ ผมลงทุนนั่งทำสายมาเกือบปี คัดจนได้ปลาที่พันธุกรรมที่พิเศษ
แต่เขาไม่สนเลย ดูแต่ราคาอย่างเดียวจริงๆ
 [on_009] [on_009] [on_009]
MannyMonomania ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #26 เมื่อ: 06/06/11, [17:05:21] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เอาใจช่วยนะครับผม [เจ๋ง]
Apistoensis ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #27 เมื่อ: 06/06/11, [17:13:06] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



มันก็ธรรมชาติคนซื้อ(บางคน)น่ะครับ
ขอเล่าเรื่องนิดนึง ตอนแรกๆที่ผมเข้าเว็บนี้ ผมเคยทำโครงการเพาะปลาสอดดำจิ๋ว
นั่งคัดสายอยู่ 2-3 รุ่น ใช้เวลาซักปีนึงได้ เลือกปลาที่มันแคระที่สุดของครอกมาผสมกันเอง
จนได้ปลาตัวผู้ที่โตเต็มที่ขนาดแค่เซนต์กว่าๆ น่ารักมากๆ
พอเอามาตั้งกระทู้ขาย 3 ตัว 50 บาท บอกไปเสร็จสรรพว่าคัดสายมายังไง
ก็มีคนมาโพสต์กระแนะกระแหนว่า ไปซื้อที่สวนก็ได้ ตักตู้รวม ตัวละ 1 บาทเอง

โห มันน่าจี๊ดไหม
ที่ขายราคา 50 บาท แค่เสียเวลา่แพ็คถุงแล้วออกไปเจอคนซื้อข้างนอกก็ไม่คุ้มแล้ว ยังไม่พอใจอีก
แล้วกรณีนี้ ผมลงทุนนั่งทำสายมาเกือบปี คัดจนได้ปลาที่พันธุกรรมที่พิเศษ
แต่เขาไม่สนเลย ดูแต่ราคาอย่างเดียวจริงๆ
 [on_009] [on_009] [on_009]


ผมว่าการเพาะปลามันก็เป็นศิลปะอย่างหนึ่งนะ
การที่เรามานั่งคัดสายพันธุ์ ดั้นด้นไปหาปลาตัวหนึ่งมาครอสกับปลาอีกตัว พัฒนาสายพันธุ์ของเราไปเรื่อยๆรุ่นต่อรุ่น
จนได้ปลาที่สวยถูกใจมาสักตัว ซึ่งอาจใช้เวลาเป็นปีนั้นย่อมมีค่าใช้จ่ายที่สูงตามมาแน่นอน

การตั้งราคาสูง ซึ่งสะท้อนกับต้นทุนจริงของเราจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ซึ่งการตั้งราคาปลาที่สูงนั้นมีผลดีทางด้านจิตวิทยาว่า ผู้ที่นำไปอุปการะต่อ มีแนวโน้มจะต้องดูแลเค้าอย่างดี ซึ่งแน่นอนต้องเริ่มศึกษามากขึ้น. โดยการจัดตู้เฉพาะ ตรวจสอบค่านำ้ และปัจจัยอื่นๆในการเลี้ยงอย่างจริงจัง
ไม่ใช่ซื้อแบบถูกๆ สุดท้ายก็จับโยนรวมๆไว้ในตู้เดียวกัน เพียงเพราะ ณ ชั่วโมงที่ยืนตัดสินใจ นั้นเห็นว่าสีมันสวยดี ประเภทเดียวกับที่คุณอ๊อดบอก


แล้วถ้าวันหนึ่งที่มีคนนำปลาที่เราอุตสาห์พัฒนาไปต่อยอด โดยที่ไม่ได้มีการพัฒนาต่อเลย โดยตัดราคากันไปเรื่อยๆ

ก็คงไม่มีใครมานั่งพัฒนาสายพันธุ์ต่ออีกแล้ว

แล้ววงการจะอยู่ได้อย่างไร

LukYom ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #28 เมื่อ: 06/06/11, [17:52:16] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

กระทู้นี้ผมก็ชอบเข้าไปดู รูปแบบนี้ก็น่าสนมากครับ

อืมม.. คิดว่าพอเห็นภาพเหมือนกันครับ


มันก็ธรรมชาติคนซื้อ(บางคน)น่ะครับ
ขอเล่าเรื่องนิดนึง ตอนแรกๆที่ผมเข้าเว็บนี้ ผมเคยทำโครงการเพาะปลาสอดดำจิ๋ว
นั่งคัดสายอยู่ 2-3 รุ่น ใช้เวลาซักปีนึงได้ เลือกปลาที่มันแคระที่สุดของครอกมาผสมกันเอง
จนได้ปลาตัวผู้ที่โตเต็มที่ขนาดแค่เซนต์กว่าๆ น่ารักมากๆ
พอเอามาตั้งกระทู้ขาย 3 ตัว 50 บาท บอกไปเสร็จสรรพว่าคัดสายมายังไง
ก็มีคนมาโพสต์กระแนะกระแหนว่า ไปซื้อที่สวนก็ได้ ตักตู้รวม ตัวละ 1 บาทเอง

โห มันน่าจี๊ดไหม
ที่ขายราคา 50 บาท แค่เสียเวลา่แพ็คถุงแล้วออกไปเจอคนซื้อข้างนอกก็ไม่คุ้มแล้ว ยังไม่พอใจอีก
แล้วกรณีนี้ ผมลงทุนนั่งทำสายมาเกือบปี คัดจนได้ปลาที่พันธุกรรมที่พิเศษ
แต่เขาไม่สนเลย ดูแต่ราคาอย่างเดียวจริงๆ
 [on_009] [on_009] [on_009]

ปลาสอดจิ๋ว ยังพอหลงเหลือไม๊ครับ อยากได้ซัก 10 ตัว
SM ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #29 เมื่อ: 06/06/11, [17:56:02] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขออนุญาตออกความเห็นหน่อยนะครับ

ในความเห็นผมคิดว่าการเกิด oversupply น่าจะเกิดเฉพาะในประเทศเราเท่านั้น

การเกิด oversupply ก็คงมาจากมีคำแนะนำที่ถูกต้องในweb และ DCB Project จึงทำให้สามารถเพาะออกมากันได้เยอะ
ผมเข้าใจว่าวงการปลาหมอแคระในบ้านเราเนี่ยน่าจะมีกลุ่มเดียวที่เกาะกันได้แน่นก็คือที่ Aqua.c1ub

ข้อดีของการเกาะกลุ่มกันได้แน่นและกลุ่มเดียว  ทำให้สามารถสืบสายพันธุ์ปลาได้ และก็จะสามารถควบคุมคุณภาพสินค้า(Apisto) ได้

ในความเห็นของผมก็คือ
-การเพาะปลาขายในประเทศสุดท้ายก็จะเหงาไปเองเพราะว่า  เพาะไปแล้วไม่รู้จะเพาะไปทำไม ขายใครก็ขายไม่ได้ราคา
-ปลาตัวยากๆก็เพาะได้ซะแล้วเช่น Adogata มันก็จะเริ่มหมดมุกไป
-แต่จุดหักมุมก็คือ ผมว่าประเทศอื่นๆ เค้ายังต้องการอยู่นะ
-การรวมกลุ่มกันได้ และสามารถควบคุมคุณภาพสายพันธุ์ปลา made in thailand ได้นั้น  
ดีมากๆเพราะว่าเราจะสามารถกำหนดราคาได้เป็นมาตรฐาน
-เมื่อกลุ่มมีปริมาณปลาที่มีคุณภาพเพียงพอ
-การจัดตั้งกลุ่มหรือสมาคมให้ชัดเจน และกลุ่มมีความรู้เรื่องการเตรียมของผู้เพาะพันธุ์ส่งออก เป็นการเตรียมตัวที่ดีมาก
-สมมุติว่าผู้ส่งออกรู้ว่ากลุ่มสามารถพัฒนาปลาที่มีคุณภาพ และปริมาณแน่นอน ทำให้เค้าเพิ่มยอดส่งออกได้นั้น
ผมว่าเค้าสนใจแน่ๆ
เพราะฉะนั้นการนัดประชุมร่วมกับผู้ส่งออกปลาของประเทศไทย (ซึ่งก็คือเจ้าที่เราไปซื้อพ่อปลา แม่ปลา F0 มาจากร้านเค้านั้นเอง)
ก็ไม่น่าจะยาก เช่น กลุ่มนัดคุยกับคุณXXX ร้าน YYYY ถึงความเป็นไปได้ที่จะส่งออก ไป japan ,germany ,hk

เท่านี้การ oversupply ในประเทศก็จะหมดไปครับ ส่วนเมืองนอกท่าจะยากที่จะเกิด oversupply
อย่างที่พวกเราทราบๆกันอยู่ว่าปลาป่า F0 ในอนาคตคงหายากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเสือตอลายใหญ่
อีกหน่อยพอจับกันเข้าไป ปลาป่าก็หมดไปเอง

เป็นแนวความคิดมาให้อ่านเล่นๆนะครับ ผมลองคิดแหวกแนวดู ทำไม ปอมปาดัว ปลาทอง อโรวาน่า ถึงส่งออกได้ แล้วทำไม Apisto จะส่งออกไม่ได้

ปล. ผมยังไม่เคยเลี้ยงลูกปลาได้จนโตเลย ได้แต่ลูกจากไตรฟาสแล้วก็ไม่รอด ต้องฝึกเพิ่มซะแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07/06/11, [12:36:46] โดย SM »
หน้า: 1 2 3   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: