มาทำให้ปลาของเราแข็งแรงดีกว่า...ทำอย่างไรปลาจึงไม่ป่วย
การดูแลเอาใจใส่ปลาเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการป้องกันโรค และเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับปลาได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเราจึงน่าจะมาทำความรู้จักกับวิธีง่ายๆ ในการดูแลเอาใจใส่ปลาเพื่อทำให้ปลามีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยได้ง่ายอาการของปลาป่วยสังเกตได้อย่างไร
สังเกตได้ไม่ยาก คือ ความผิดปกติของตัวปลา หรือพฤติกรรมของปลาที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ตัวอย่างความผิดปกติที่เกี่ยวกับปลาได้แก่ สีของปลา, การกางของครีบ, เมือกตามลำตัว, หรือสิ่งแปลกปลอมที่พบอยู่บริเวณภายนอกตัวปลา
พฤติกรรมที่ปลาแสดงออกและสังเกตได้ว่าปลามีความผิดไปจากเดิม เช่น ลักษณะการว่ายน้ำ, ความก้าวร้าว, การอยู่แต่ผิวน้ำหรือที่พื้นต,ู้ การว่ายน้ำในลักษณะที่ไม่สามารถควบคุมทิศทางได,้ การว่ายน้ำเป็นวง, การว่ายไล่ปลาตัวอื่น, การว่ายน้ำในลักษณะตั้งฉากกับผิวน้ำ, หรือว่าการว่ายน้ำแบบเสียสมดุลย์ คือเอียงข้างใดข้างหนึ่ง เป็นต้น พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งบอกเหต ุและอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นในการทำให้ปลาป่วยในเวลาต่อมา
ความสำคัญของการจัดการในเรื่องคุณภาพน้ำที่ใช้เลี้ยงปลา การจัดการในเรื่องน้ำที่ใช้เลี้ยงเป็นวิธีการที่ต้องดำเนินการเป็นลำดับแรก เมื่อปลาเริ่มมีอาการผิดปกติ การเปลี่ยนถ่ายน้ำเป็นวิธีการที่ช่วยทำให้คุณภาพของน้ำดีขึ้น แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำที่ใช้ในการเปลี่ยนถ่ายด้วย การดูดตะกอนจากเศษอาหารเหลือหรือของเสียที่ตกอยู่บริเวณพื้นตู้ ก็เป็นวิธีการที่ช่วยกำจัดของเสียและลดปริมาณเชื้อในตู้ปลา ของเสียจากอาหารที่เหลือหรือสิ่งขับถ่ายจากตัวปลา จะทำให้คุณภาพของน้ำต่ำลง การเปลี่ยนถ่ายน้ำและการดูดเศษตะกอนในตู้ปลา เป็นการควบคุมคุณภาพของน้ำทางตรง นอกจากนี้เรายังสามารถควบคุมคุณภาพของน้ำทางอ้อมได ้โดยการคุมปริมาณอาหารที่ใช้เลี้ยงปลาอีกทางหนึ่ง การป้องกันการเกิดโรคง่ายกว่าการรักษาโรค
ปลามีการใช้วัคซีนเป็นทางเลือกในการป้องกันโรคเช่นเดียวกัน มีการผลิตวัคซีนทางการค้าสำหรับป้องกันโรคในสัตว์น้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัคซีนในการป้องกันโรคในปลาเมืองหนาว แต่สำหรับวัคซีนในการป้องกันโรคที่เกิดกับปลาเขตร้อน อาจยังต้องมีการทดสอบในเรื่องของประสิทธิภาพของตัววัคซีน ทั้งนี้เป็นเพราะว่าอุณหภูมิเป็นปัจจัยหลักในการสร้างภูมิคุ้มกันของปลา และมีผลทำให้ระยะเวลาในการคุ้มครองโรค แตกต่างไปจากวัคซีนที่ใช้ในปลาเขตหนาว การกระตุ้นให้ปลามีการสร้างภูมิคุ้มกัน ยังเกิดจากการได้รับสารอาหารบางชนิด ทำให้ปริมาณของเม็ดเลือดขาวที่ช่วยในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาทำอันตรายต่อตัวปลามีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทางเลือกในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคสำหรับปลาอีกวิธีหนึ่ง ยาและสารเคมียังคงมีความจำเป็น
ในกรณีที่ปลาป่วย การรักษาโดยการใช้ยาหรือสารเคมี คงยังมีความจำเป็นอยู่ แต่การรักษาที่โรคได้ผลนั้น จะต้องอาศัยการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องจากผู้ที่มีความร ู้และความชำนาญในการวินิจฉัยโรค การเลือกใช้ยาหรือสารเคมีที่เหมาะสมในการรักษา การจัดการดูแลปลาป่วยในขณะที่ทำการรักษา การใช้ยาที่ไม่ถูกต้องในการรักษาโรค ทำให้การรักษาไม่หาย ในการใช้ยาไม่ถูกต้อง ได้แก่ การใช้ยาโดยไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้ปลาเป็นโรค หรือการรักษาไม่ตรงกับโรค ทำให้อาการป่วยของปลาไม่ดีขึ้น โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส การใช้ยาในปริมาณที่มากเกินไป ทำให้เกิดความเป็นพิษต่อปลา และอาจทำให้ปลาตายได้ผลของการใช้ยาไม่ถูกต้อง
ปัญหาในการรักษาแล้วไม่หาย หรือที่เรียกกันว่าเกิดการดื้อยา ทำให้ไม่สามารถใช้ยาชนิดเดิมในการรักษาโรค ต้องเปลี่ยนไปใช้ยาตัวอื่นแทน การตกค้างของยาในตัวปลา ซึ่งในปลาสวยงามมักจะไม่ค่อยมีปัญหามากนัก แต่จะมีปัญหากับปลาที่ใช้ในการบริโภคเป็นอาหาร เมื่อมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำ น้ำที่มียาก็จะลงสู่สิ่งแวดล้อม ทำให้สิ่งแวดล้อมมีการปนเปื้อนของยาที่ใช้ในการรักษาโรค ซึ่งยาที่ตกค้างมีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในสิ่งแวดล้อมได้ มีผลต่อการปนเปื้อนของยาในแหล่งน้ำที่ใช้สำหรับอุปโภคและบริโภคได้ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อมนุษย์ ยาหลายชนิดถูกพบว่าเป็นสารที่มีแนวโน้มก่อมะเร็ง สารที่ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ หรืออาจทำให้เกิดความผิดปกติในการพัฒนาของทารกในครรภ์ นอกจากนี้ยังพบว่าเชื้อที่ดื้อยาในสัตว์น้ำสามารถถ่ายทอดการดื้อยาสู่เชื้อที่ก่อให้เกิดในมนุษย์ได้ ทำให้เชื้อที่ก่อให้เกิดโรคในมนุษย์ดื้อยา แม้ว่าเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคในมนุษย์ไม่ได้สัมผัสกับยาโดยตรง
ที่มา FANCY FISH ปีที่6 ฉบับที่63 ประจำเดือนมกราคม
|